ภายในตำหนักเย็นที่เคยร้าง ถูกเปลี่ยนเป็นห้องซ้อมพิณของเซียนหลัน
แม้ยังไม่มีใครรู้ว่าเหตุใดนางจึงเลือกใช้สถานที่อัปมงคลนี้ แต่นางรู้ดี
“หากข้าต้องคืนทุกอย่าง…ก็ต้องเริ่มจากที่ที่พวกเขาคิดว่าข้าไม่มีวันกลับมา”
เสียงพิณแผ่วพลิ้วดังกังวานในเช้าวันหนึ่ง
เมื่อเงาร่างหนึ่งปรากฏเงียบ ๆ ที่หน้าประตู
เจียงซินหลัว ในชุดเขียวอ่อน เยื้องย่างเข้ามาด้วยท่าทีสงบ
“เพลงที่ท่านเล่น…”
“เป็นบทที่มารดาข้าเคยเล่นเมื่อนางยังมีชีวิต”
เซียนหลันละมือจากสายพิณ
นางเงยหน้าขึ้นสบตาอีกฝ่าย
“แสดงว่าท่านก็รู้จักเพลง หงส์โบยบินสู่ตะวันตก”
เจียงซินหลัวพยักหน้า
“แต่ข้าเพิ่งรู้ว่า…ผู้ประพันธ์แท้จริง ไม่ใช่มารดาข้า”
“หากแต่เป็นพระชายาอี้เฟย—มารดาของท่าน”
เสียงลมพัดผ่านปลายผมทั้งสองนาง
ก่อนความเงียบระหว่างหญิงที่เคยเป็นศัตรูจะถูกทำลายด้วยความจริงอีกข้อ
“ข้าเริ่มสงสัยว่า ใครกันแน่…ที่เขียนประวัติให้ข้าเชื่อตลอดชีวิต”
เจียงซินหลัวเอ่ยเสียงแผ่ว
⸻
คืนนั้น นางกลับตำหนักพร้อมหนังสือประวัติราชสำนัก
หน้าแรก ๆ กล่าวถึงพระชายาอี้เฟยว่า “ลอบมีติดต่อกับต่างแคว้น และปลุกปั่นขุนนางเบื้องสูง”
แต่คำว่าติดต่อถูกเขียนทับลบ และคำว่า “ปลุกปั่น” ก็ขีดแก้ด้วยหมึกใหม่
“จดหมายโบราณ ภาพวาดหาย ภาษากลอนของมารดา…”
“หากข้าเชื่อทั้งหมดนี้…ข้าจะต้องไม่เชื่อตนเองอีกต่อไป”
และในห้วงความคิดนั้น
เสียงหนึ่งในความทรงจำก็ผุดขึ้น—เป็นคำของมารดานางในยามยังเด็ก
“อย่าไว้ใจสตรีที่ร้องไห้เงียบ ๆ เพราะเธอมักกำลังร้อยเข็มพิษใต้แขนเสื้อ”
⸻
เจียงซินหลัวเริ่มวางหมากลับ
นางแสร้งไปร่วมงานสวดบูชาร่วมกับกุ้ยเฟย เพื่อเฝ้าสังเกต
แต่สิ่งที่นางเห็นในวันนั้น…คือบ่าวของกุ้ยเฟยแอบเขียนบางสิ่งในม้วนคำสวด แล้วซ่อนมันใต้ฐานเทียน
“จดหมาย…หรือคำสั่ง?”
ในคืนเดียวกัน
เซียนหลันแอบเข้าไปยังห้องเก็บผ้าของวังหลัง โดยมีเวินอี้เฉินช่วยเบี่ยงเบนความสนใจ
นางค้นพบ “ผ้าปักหงส์คู่จันทร์” ที่เคยเป็นของมารดานาง—ซึ่งควรหายไปพร้อมกับวันที่ถูกกล่าวหาว่าคบชู้
“มันไม่ควรถูกเก็บไว้ที่นี่…เว้นแต่ใครบางคนเก็บมันไว้เป็น ‘หลักฐาน’ เผื่อใช้ในวันหนึ่ง”
⸻
ณ ห้องลับในตำหนักหลวง
เฟิงอวี้หานรับรายงานจากสายลับที่เขาส่งไปยังแคว้นเจี้ยนหรง
“มีจดหมายฉบับหนึ่ง…ที่เจียงซินหลัวเขียนถึงตระกูลเวินในวังหลี่”
“แต่เนื้อหายังไม่ชัดเจน เราเพียงรู้ว่า…นางเริ่ม ‘ไม่มั่นใจในผู้ส่งนางมา’”
เฟิงอวี้หานนั่งเงียบครู่หนึ่ง
ก่อนจะกล่าวอย่างหนักแน่น
“นางยังอันตรายอยู่…แต่นั่นแหละ จึงน่าสนใจ”
⸻
คืนนั้น
เซียนหลันจุดเทียนที่ห้องของตน
ภาพวาดของมารดาที่ค้นพบจากหอคัมภีร์ถูกแขวนไว้เหนือโต๊ะ
นางเขียนบันทึกลงบนแผ่นไม้เล็ก ๆ ด้วยลายมือของตนเอง
“หากแม่จากไปเพราะความผิดที่ไม่มีจริง ข้าจะคืนศักดิ์ศรีให้ท่าน”
“หากความจริงนี้ต้องแลกด้วยการถูกเกลียดชัง ข้าก็จะยอม”
เสียงลมแรงพัดเปลวเทียนสั่นไหว
แต่แววตาของนางกลับนิ่ง—เย็น และไม่หวั่นไหวอีกต่อไป