แสงแดดยามเช้าสาดผ่านหน้าต่างกระจกสีของหอคัมภีร์
กลิ่นหมึกจาง ๆ และเสียงพลิกหน้ากระดาษเป็นจังหวะที่สงบ จนสามารถกลบเสียงโลกภายนอกได้อย่างหมดจด
เซียนหลันนั่งอยู่ที่โต๊ะกลางห้อง
เบื้องหน้าคือ “สมุดภาพวาดโบราณ” ที่หายสาบสูญไปหลายปี — เพิ่งถูกค้นพบในการซ่อมคลังตำราเก่า
บนหน้ากระดาษสีงาช้าง ซีดซีด้วยกาลเวลา มีภาพดอกเหมยแซมใบไผ่ที่ถูกวาดด้วยฝีแปรงอ่อนช้อย ทว่ามั่นคง
…และมุมล่างของภาพมีลายเซ็นคุ้นตา
“พระชายาอี้เฟย — ช่วงฤดูเหมันต์ ปีที่ห้า รัชศกเฟิงหมิง”
หัวใจเซียนหลันเต้นช้าลงอย่างประหลาด
นี่คือภาพที่นางจำได้ว่า “มารดาเคยวาดให้”
แต่วันหนึ่งมันก็หายไป…ก่อนที่มารดาจะถูกกล่าวหาว่ามีจิตใจริษยาและเสียพระชนม์ในเวลาต่อมา
“ทำไม…ภาพนี้ถึงไปอยู่ในหอคัมภีร์ฝ่ายชาย?”
“และใครเป็นคนย้ายมันไป?”
⸻
เสียงฝีเท้าเบา ๆ ทำให้นางเงยหน้า
เวินอี้เฉิน เดินเข้ามาพร้อมพัดไม้จันทน์ในมือเช่นเคย
“ข้ารู้ว่าเจ้าจะมาที่นี่”
เขาวางห่อผ้าเล็ก ๆ ตรงหน้านาง
เมื่อเซียนหลันคลี่ออก
สิ่งที่อยู่ข้างในคือ “สำเนาจดหมายเก่า” เขียนด้วยลายมือของมารดานาง
จ่าหน้าถึง…เจ้าเมืองแคว้นเจี้ยนหรง
“มารดาเจ้าส่งจดหมายหาทูตหญิงในแคว้นเจี้ยนหรง เพื่อขอภาพวาดแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม”
“แต่ภาพของนาง…กลับถูกสกัดไม่ให้เผยแพร่ และถูกส่งกลับอย่างเงียบ ๆ”
เซียนหลันนิ่ง
มือสั่นน้อย ๆ ยามถือแผ่นกระดาษเก่าในมือ
“ใครกันแน่…ที่กลัวว่าภาพวาดของมารดาข้า จะถูกเห็น?”
เวินอี้เฉินตอบเบา ๆ
“บางที…ก็อาจเป็นคนที่ไม่ต้องการให้คนในวังรู้ว่า พระชายาอี้เฟยมีสายสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมกับแคว้นอื่น”
“เพราะนั่นแปลว่านางมี ‘เสียง’ มากกว่าที่ใครบางคนอยากให้มี”
⸻
เซียนหลันเงยหน้าขึ้น
จังหวะนั้นเอง น้ำตาหยดหนึ่งร่วงจากหางตาโดยไม่รู้ตัว
“ข้าไม่ได้ร้องไห้มานานแล้ว”
เวินอี้เฉินยื่นผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กให้
เป็นผืนเดียวกับที่เขาเคยให้เมื่อยังเด็ก — แม้ขาดและเก่า แต่ยังถูกรักษาไว้อย่างดี
“ถ้าเจ้าจะร้อง…”
“ก็ร้องกับข้าเถิด อย่างน้อย…ข้าจะไม่หันหลังเดินจากไป”
⸻
ค่ำวันนั้น
เจียงซินหลัว ได้รับคำเชิญจากหอคัมภีร์ให้ชมภาพโบราณที่เพิ่งค้นพบ
เมื่อเห็นภาพดอกเหมยที่เธอเคยเห็น “แขวนอยู่ในจวนของมารดา”
นางก็ชะงัก
“นี่มัน…”
“แต่…มารดาข้าบอกว่า ภาพนี้ถูกส่งจากวังหลวงเป็นของรางวัลให้ท่าน…”
มือของเจียงซินหลัวสั่น
สิ่งที่นางเคยภาคภูมิใจ กลับเป็นสิ่งที่อาจถูก “ยัดเยียด” ให้ผู้ที่เคยอยู่ข้างมารดาของเซียนหลันกลายเป็นคนผิด
⸻
ในคืนนั้น
เจียงซินหลัวมองเงาจันทร์จากระเบียง
ลมหนาวพัดชายชุดนางเบา ๆ ขณะดวงตานิ่งสงบนั้นเริ่มไหว
“ข้าถูกฝึกให้เชื่อว่า ทุกสิ่งมีเป้าหมาย…”
“แต่หากสิ่งที่ข้าเชื่อ คือกลลวง…ข้าจะยังเดินต่อในฐานะใคร?”