แสงเช้าอ่อน ๆ ส่องผ่านกระจกขาวขุ่น
เซียนหลันนั่งอยู่ที่โต๊ะกลางห้อง ข้างมือของนางมีแหวนหยกวงเล็กซึ่งเพิ่งถูกส่งกลับมาเงียบ ๆ ผ่านคนใช้ที่ไม่ระบุชื่อผู้ฝาก
“หยกชิ้นนี้หายไปหลังแม่ถูกกล่าวหา”
“แต่รอยบิ่นมุมล่างนี่…เป็นสิ่งที่ข้าจำได้แม่น”
นางพลิกมันไปมา
ภายในร่องวงแหวนยังมีเศษด้ายแดงเส้นจาง ๆ ที่แทบมองไม่เห็น
นั่นคือวิธีที่พระชายาอี้เฟยเคยใช้ร้อยห้อยไว้กับพัด
“ถ้าแหวนนี้กลับมาได้…ก็แปลว่าคนที่เคยอยู่ข้างแม่ ยังมีชีวิตอยู่”
⸻
คืนนั้น นางแอบไปยังหอเก็บตำราหลังเก่า
ที่ซึ่งไม่มีใครใช้มานาน
ใต้กระเบื้องห้องหลังสุดของหอ มีลิ้นชักลับที่นางเคยเห็นในบันทึกของแม่
แกร๊ก…
นางดึงแผ่นไม้ออก และพบกระดาษเก่าเปื้อนฝุ่น
มีลายมือที่บ่งบอกว่า “เขียนรีบเร่ง” และลงชื่อด้วยตัวอักษร ‘เยี่ยน’
⸻
ทันใดนั้น เสียงฝีเท้าแผ่ว ๆ ดังขึ้นนอกหอ
เซียนหลันรีบเก็บหลักฐานและดับตะเกียง
นางหลบหลังฉากไม้ ก่อนจะได้ยินเสียงกระซิบ
“เจ้าหญิง…ข้าไม่ได้มาทำร้าย”
“ข้า…เป็นคนส่งแหวนให้ท่าน”
เสียงนั้นคุ้นหู
เมื่อเซียนหลันค่อย ๆ โผล่ออกมา จึงพบว่าเจ้าของเสียงคือ หลิวเหมยหรง — บ่าวคนสนิทของพระชายาอี้เฟยที่หายตัวไปหลังเหตุการณ์เมื่อ 8 ปีก่อน!
⸻
ในอีกมุมหนึ่งของวัง
เจียงซินหลัวกำลังเดินสวนกลับจากตำหนักกุ้ยเฟย
ในมือนางมีผ้าซับน้ำชาเก่า ๆ ที่แอบหยิบมาจากห้องพักของบ่าวรับใช้
“หากผ้าผืนนั้นตรงกับชุดในหอเผาเอกสารเมื่อคราวก่อน…”
“ข้าจะรู้ว่า ‘ใคร’ คือคนปลอมหลักฐานใส่ร้ายเซียนหลันจริง ๆ”
⸻
คืนนั้น
เจียงซินหลัวไม่ส่งรายงานกลับไปแคว้นเจี้ยนหรง
แต่กลับเขียนจดหมายอีกฉบับ “ถึงใครบางคน” ที่อยู่นอกวัง
เธอลงท้ายจดหมายด้วยนามปลอม และใส่ข้อความว่า
“หากข้อมูลนี้หลุดถึงวังหลังโดยไม่ผ่านข้าอีก ข้าจะถือว่าแคว้นของข้าไม่ได้ต้องการความจริงอีกต่อไป”
นี่คือครั้งแรกที่นาง “วางเงื่อนไข” กลับไปยังผู้บงการ
เพื่อรักษาเส้นทางที่เริ่มอยากจะเชื่อ…ว่าคนที่เคยถูกวางหมากนั้นอาจไม่ได้ผิดเลย
⸻
กลางวันถัดมา – ตำหนักรัชทายาท
เฟิงอวี้หานนั่งอ่านรายงานสายลับ
คำหนึ่งที่เขาอ่านซ้ำสองรอบคือชื่อ “หลิวเหมยหรง”
“นางเคยหายไปนานกว่าครึ่งทศวรรษ แต่กลับปรากฏในตำหนักเก่าพร้อมกับแหวนหยก”
“ใครกันแน่…ที่กำลังส่งคนกลับมาให้เธอในตอนนี้?”
⸻
เวินอี้เฉินเดินเข้ามาก่อนจะกล่าวเบา ๆ
“ท่านเริ่มรู้สึกบางอย่างกับนางแล้วใช่หรือไม่?”
เฟิงอวี้หานไม่ตอบ
เขาเพียงยกพัดขึ้นปิดริมฝีปาก แล้วกล่าวเสียงเบา
“ข้าไม่เคยยอมใครมองข้ามความเงียบของข้าได้…”
“แต่นาง…กลับมองเห็นความเงียบของข้าเป็นเสียงเรียกให้วางไพ่ตรงหน้า”
⸻
ค่ำวันนั้น
เซียนหลันนั่งสนทนากับหลิวเหมยหรงในห้องปิดเสียง
หญิงสูงวัยเล่าว่าเมื่อพระชายาอี้เฟยถูกขังอย่างไม่เป็นธรรม เธอพยายามลอบส่งข้อความ
แต่ถูกบ่าววังหลังบางคนปิดปากและซ่อนตัวเธอไว้ในศาลาพรางตาย
“จนเมื่อไม่นานนี้…มีคนแต่งกายด้วยตราประทับของรัชทายาท มาส่งข้าออกมาเงียบ ๆ พร้อมแหวนหยกวงนี้”
เซียนหลันเบิกตากว้าง
คำตอบไม่ได้อยู่ที่ใคร — แต่เธอเริ่ม “สงสัย” คนที่ไม่น่าต้องช่วยด้วยซ้ำ
“เฟิงอวี้หาน…เจ้าทำสิ่งนี้ไปเพื่อเหตุใดกันแน่”