เสียงฆ้องทองดังขึ้นสามครั้ง
ภายในหอพิธีต้าอี้กง ตกแต่งด้วยผ้าไหมแดงทองลายมังกรหงส์
เหล่าขุนนาง ขันที และนางในต่างมารวมตัวกันแน่นขนัด ราวกับมีพิธีสำคัญที่สุดแห่งปี
“ประกาศพิธีหมั้นหมายเชื่อมสัมพันธ์สองแคว้น ระหว่างรัชทายาทเฟิงอวี้หาน แห่งหนานเยียน กับบุตรีของตระกูลซู—ซูเมิ่งอวี่”
เสียงประกาศดังขึ้นจากขุนนางพิธี
ทุกคนหันมองร่างหญิงสาวผู้เลอโฉมในชุดหมั้นสีชาด
แววตาซูเมิ่งอวี่เต็มไปด้วยชัยชนะอันเยือกเย็น
“เจ้าปล่อยให้ข้าชนะไม่ได้หรอก…เซียนหลัน”
“ต่อให้เจ้าเฉียบแหลมเพียงใด สุดท้ายข้าก็จะยืนข้างเขาอย่างถูกต้องตามพิธี”
⸻
เบื้องหน้าบัลลังก์
เฟิงอวี้หาน ยืนสงบนิ่งในชุดรัชทายาทปักลายมังกรห้ากรงเล็บ
สีหน้าของเขาไม่บ่งบอกอารมณ์ใด
แต่สายตากลับมองลึกไปยังมุมห้อง…ที่ซึ่ง เซียนหลัน ยืนอย่างสงบนิ่งในชุดสีขาวอมทอง
เธอมาในฐานะ “ผู้รับชมพิธี”
แต่ในความเงียบสงบของนาง กลับเป็นสิ่งที่ทำให้ซูเมิ่งอวี่ใจไม่สงบที่สุด
⸻
ขุนนางพิธีเชิญรัชทายาทกล่าวคำรับหมั้น
เสียงทั่วทั้งห้องเงียบสนิท ราวกับลมหายใจทั้งวังหยุดลง
เฟิงอวี้หานก้าวขึ้นหนึ่งก้าว
สบตากับซูเมิ่งอวี่ครู่หนึ่ง ก่อนหันไปมอง ฮ่องเต้หลี่ซือเฉิน
“กระหม่อมมีคำขอเพียงหนึ่งข้อ ก่อนรับพิธีนี้”
เสียงฮือเบา ๆ ดังขึ้นจากขุนนางหลังห้อง
ฮ่องเต้ขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนพยักหน้า
“หากเจ้ามั่นใจว่าคำขอไม่ขัดราชธรรม…จงกล่าวมา”
⸻
เฟิงอวี้หานหันกลับมามองซูเมิ่งอวี่
จากนั้นเอ่ยเสียงนิ่งจนแทบไม่มีใครเชื่อว่าเป็นคำประกาศกลางพิธี
“กระหม่อม…ขอถอนตนจากพิธีหมั้นนี้”
“ด้วยเหตุผลว่า ‘หมั้นหมายโดยไม่ถามใจ ย่อมไม่ต่างจากล่ามโซ่ทอง’”
“และกระหม่อม…ไม่ยินดีเป็นนักโทษของราชพิธี”
⸻
หอพิธีถึงกับเงียบราวป่าช้า
ใบหน้าซูเมิ่งอวี่ซีดเผือดทันที
นางพยายามยกมือจะกล่าวแย้ง แต่เฟิงอวี้หานเอ่ยต่อ
“ข้าขออภัยแก่แคว้นหนานเยียน…”
“แต่หากความสัมพันธ์ระหว่างแคว้นจะต้องผูกพันด้วย ‘หัวใจไม่แท้จริง’ ข้าเชื่อว่า ยิ่งยืนนาน ยิ่งเน่าใน”
เสียงขุนนางโกลาหล
ขันทีรีบถอยหลังด้วยกลัวถูกลูกหลง
ฮ่องเต้หลี่ซือเฉินนิ่งเงียบอย่างอึ้งชั่วครู่ ก่อนแค่นเสียง
“เฟิงอวี้หาน…เจ้าเลือกเส้นทางที่ลำบากนัก”
“กระหม่อมทราบ”
เขาค้อมศีรษะ
“แต่กระหม่อมยินดีเดินเส้นทางที่ไม่หรูหรา…ตราบใดที่ปลายทางไม่ใช่กรงทอง”
⸻
ขณะเดียวกัน เซียนหลันยังยืนนิ่ง
แววตานางไม่ได้แสดงความยินดี หรือเย้ยหยันแม้สักนิด
มีเพียงความสงบนิ่ง…และเยือกเย็นราวกับหงส์เหนือผิวน้ำ
แต่ภายในอกนาง—มีบางสิ่งสั่นสะเทือน
คำพูดของเฟิงอวี้หาน…ไม่ใช่แค่ตบหน้าซูเมิ่งอวี่
แต่มันคือ “คำประกาศสงคราม” กับผู้ที่พยายามใช้พิธีหลวงเพื่อควบคุมทุกอย่าง
⸻
กลางค่ำวันนั้น
ข่าว “รัชทายาทปฏิเสธการหมั้น” แพร่กระจายไปทั่ววัง
ซูเมิ่งอวี่ถูกเรียกกลับตำหนักกุ้ยเฟยทันที
และเซียนหลัน…กลายเป็นชื่อที่ใคร ๆ พูดถึง แม้ไม่ได้ทำอะไรเลย
เวินอี้เฉินเดินเคียงข้างเซียนหลันตอนเดินกลับตำหนัก
“เจ้าชนะอีกครั้ง โดยไม่ต้องวางหมากแม้แต่ช่องเดียว”
เซียนหลันหันมามองเขา
“เพราะศัตรูบางคน…มั่นใจในเกมของตนมากเสียจนเดินเข้าสนามรบคนเดียว”
“และเจ้าก็รอเพียงแค่ ‘ตบมือต้อนรับ’ เขาเข้าสนามเอง…”
เวินอี้เฉินหัวเราะเบา ๆ
“ข้าล่ะอยากเห็นสีหน้าซูเมิ่งอวี่ในตอนนี้นัก”