หากสายตาคืออาวุธ ดวงตาคู่นั้นของเขาคงเป็นมีดสลักเย็น—เฉียบคม เรียบนิ่ง และเยือกเย็นจนไร้หัวใจ
เฟิงอวี้หาน รัชทายาทแห่งแคว้นหนานเยียน
ผู้มีชื่อเสียงเลื่องลือในความโหดเหี้ยม เย็นชา และไม่เคยไว้ใจผู้ใด แม้แต่ขุนนางร่วมแคว้น
ในอดีต เซียนหลันเคยพบเขาเพียงครั้งเดียว
แต่เพียงชั่วแวบเดียว…เธอก็รู้ว่าเขาไม่ใช่คนที่ควรถูกลืม
และครานี้
ด้วยสติและความทรงจำจากอดีต
นางไม่คิดจะปล่อยให้เขาผ่านไปเฉย ๆ เหมือนเมื่อก่อนอีก
⸻
หลังจากงานเลี้ยงสิ้นสุด เซียนหลันเดินเลี่ยงจากห้องโถงทองคำ
แสร้งทำทีว่าไม่ชอบเสียงดังและฝูงชน
ทั้งที่ความจริง นางกำลังรอ “เขา”
ริมระเบียงที่ทอดยาวผ่านสวนไผ่ ชายหนุ่มในชุดดำลวดลายพยัคฆ์ยืนอยู่เงียบ ๆ
เส้นผมสีดำขลับถูกรวบไว้ลวก ๆ ตามแบบนักรบ ต่างจากบุรุษในวังที่แต่งตัวเป๊ะทุกกระเบียดนิ้ว
นัยน์ตาเรียบเฉยของเขาเหลือบมองนางเพียงครู่เดียว ก่อนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“องค์หญิงเซียนหลัน?”
นางย่อกายคำนับตามมารยาท
“เพคะ รัชทายาทหนานเยียน ข้าไม่ชอบเสียงครึกครื้นนัก จึงขอออกมาสูดอากาศ”
เขาพยักหน้าเบา ๆ แล้วหันกลับไปมองไผ่ที่ไหวตามลม
ไม่มีคำกล่าวชม ไม่มีคำถาม
เพียงความเงียบที่แผ่ปกคลุมเหมือนผืนหิมะ
เซียนหลันไม่ได้พูดต่อ
เพราะนางรู้ว่าเขา…เป็นคนที่ไม่ชอบคำพูดฟุ่มเฟือย
เงียบจึงเป็นทางเดียวที่จะได้ “คำพูดจริง” จากชายผู้นี้
และก็ได้ผล
“เจ้าไม่เหมือนเด็กวังหลังทั่วไป”
“ไม่ซุกซน ไม่ประจบประแจง ไม่ตกใจเมื่อถูกจับจ้อง”
“…แต่กลับเหมือนหมากตัวหนึ่ง ที่กำลังคำนวณอยู่เงียบ ๆ”
เซียนหลันหัวเราะเบา ๆ ราวกับไม่ได้สะทกสะท้าน
“หากข้าเป็นหมาก…ท่านก็คงเป็นกระดาน”
“และเกมนี้ กำลังน่าสนใจขึ้นทุกที”
เฟิงอวี้หานหันขวับ ดวงตาเฉียบคมนั้นจ้องตรงเข้ามา
แต่นางไม่หลบสายตา
ไม่ใช่เพราะกล้า…แต่เพราะในใจนางเต็มไปด้วย ไฟ
“เจ้าต้องการอะไร?”
เขาถามตรง ไม่มีอ้อม
“ข้าต้องการเปลี่ยนอนาคต”
นางเอ่ยช้า ๆ
“ข้าต้องการเอาคืนแม่เลี้ยงที่ฆ่าข้าในอดีต”
“ข้าต้องการให้เสด็จพ่อ…ได้รู้ความจริงเสียทีว่าใครกันแน่ที่ควรไว้ใจ”
คำว่า “ฆ่าข้าในอดีต” นั้น เขาไม่เข้าใจ
แต่น้ำเสียงนาง…ไม่มีแม้แต่ความลังเล
⸻
เฟิงอวี้หานไม่ได้ตอบทันที
เพียงจ้องนางนิ่ง ราวกับกำลังวิเคราะห์
ก่อนเอ่ยเรียบ ๆ ว่า
“แล้วเจ้าคิดว่า ข้าจะช่วยเจ้าทำไม?”
เซียนหลันยิ้ม
ยิ้มที่ไม่ใช่รอยยิ้มของเด็กหญิง แต่เป็นของผู้ที่เคยเผชิญความตายมาแล้ว
“เพราะท่านเอง…ก็ไม่เชื่อในคนของตนเองเช่นกันมิใช่หรือ?”
“ท่านอยู่ในราชวงศ์ที่ถูกกัดกร่อนจากคนใกล้ตัว”
“หากท่านจะเลือกสักคนมาเป็น ‘หูและตา’ ในแคว้นหลี่…เหตุใดไม่ใช่ข้า?”
“ข้าอาจไม่ใช่นกกระจิบอ่อนแอ”
“แต่ข้าเป็นหงส์ที่ซ่อนปีกไว้เงียบ ๆ จนถึงเวลาที่ฟ้าร้อง”
⸻
สามวันต่อมา
จดหมายลับฉบับหนึ่งถูกส่งถึงนางอย่างลับ ๆ
ข้างในมีแผนผังเส้นทางลับของวังหลัง
และเอกสารเก่าที่เคยถูกทำลาย—“บันทึกบัญชีข้าวของตำหนักเย็นในปีที่เซียนหลันถูกลงโทษ”
“เริ่มจากความจริงที่ไม่มีใครสนใจ…”
ลายมือสั้นกระชับ ไม่มีชื่อ
แต่นางรู้ดีว่า มาจากเขา
⸻
รัชทายาทจากต่างแคว้นผู้ไร้หัวใจ
กับเจ้าหญิงผู้กลับมาจากความตาย
ร่วมมือกันเงียบ ๆ ในเงามืดของราชสำนักที่เต็มไปด้วยเล่ห์กล
หากข้างหนึ่งคือพยัคฆ์ อีกข้างคือหงส์
ฟ้าอาจไม่เคยคิดว่า…หมากสองตัวนี้จะร่วมมือกัน
แต่หากขัดแย้งก็ย่อยยับ
หากจับมือ…โลกจะสั่นคลอน
“เฟิงอวี้หาน… ข้าจะไม่เชื่อใจท่านทั้งหมด”
“แต่เราจะเล่นเกมนี้…ไปด้วยกัน จนกว่าจะถึงปลายกระดาน”