Cherreads

Chapter 28 - ดาบที่ไม่เปื้อนเลือด

ในวังหลัง ดาบบางเล่มไม่จำเป็นต้องเปื้อนเลือด…จึงจะทำร้ายได้ลึกที่สุด

คืนยามซวี ลมต้นฤดูใบไม้ผลิพัดแผ่ว เหมือนจะอ่อนโยนแต่ก็แฝงความเยือกเย็นในทุกก้าวย่าง เสียงระฆังประจำหอคำสัตย์ดังขึ้นสองครั้ง เป็นสัญญาณบ่งบอกว่ามี “แขก” ลักลอบเข้าในเขตต้องห้าม

แต่คืนนี้…ไม่มีขันทีคนใดกล้ารายงานขึ้นตรง

เพราะแขกที่ลอบเข้าคือคนของ “กุ้ยเฟยซูเจิน”

เจียงซินหลัวสวมชุดคลุมคล้ายสาวใช้ เดินเงียบในแนวไม้ด้านหลังตำหนักเซียนเยี่ยน

นางได้รับ “ข่าวลือ” จากคนของตนว่า คืนนี้มีคำสั่งจากซูเจินให้นำของบางอย่างไปฝังใต้ต้นเหมยขาวที่อยู่ใกล้ตำหนักของเซียนหลัน

แต่สิ่งที่นางไม่ได้คาด…คือ จะพบกับ “อีกเงา” ที่รออยู่ก่อนแล้ว

“เจ้ามาช้าไปก้าวหนึ่ง…สายของข้าเห็นคนปล่อยห่อผ้านั้นไปตั้งแต่ยามห้าย”

เสียงของ เวินอี้เฉิน เอ่ยขึ้นจากมุมมืด เขาโยนถุงผ้าสีอ่อนให้ นางรับไว้ เปิดดู…

…ภายในคือขวดยาสีดำชนิดเดียวกับที่พบในเหตุวางยาขุนนางเมื่อหลายปีก่อน—คดีที่มารดาของเซียนหลันถูกกล่าวหา

“เจ้าคิดจะทำอะไรกับมัน?” นางถาม

เวินอี้เฉินตอบเสียงเรียบ “ส่งต่อไปยังหอชำระความ…แต่ไม่ใช่จากมือข้า—ต้องเป็นคนที่ ‘มีสิทธิ์’ พอจะทำให้ข่าวไม่หายระหว่างทาง”

นางนิ่งงันไป ก่อนจะกระซิบ

“…ข้าเป็นแค่ทูตต่างแคว้น ไม่มีสิทธิ์ยื่นเรื่องตรง”

เวินอี้เฉินสบตานาง

“เจ้ากำลังเลือกข้างอยู่ ซินหลัว และครั้งนี้ ไม่มีพื้นที่ให้เดินตรงกลางอีกแล้ว”

ในห้องหนังสือลับของตำหนักเล็ก เซียนหลันจุดตะเกียงเพียงดวงเดียว นางใช้เข็มเงินแกะผนึกของจดหมายฉบับเก่าที่เพิ่งได้มาจากเวินอี้เฉิน

“ตราประทับ…คือกุญแจสำคัญในคดีของมารดาข้า…” นางพึมพำ

ในจดหมายนั้น มีการกล่าวถึงการเบิกยาสำหรับองค์หญิงจิ้งเฟย (ชื่อเก่าของมารดานาง) โดยใช้ตราเดียวกันกับที่ถูกปลอมในตอนนี้

หมากของซูเจิน ไม่ได้เพิ่งเริ่มวางในยุคของเซียนหลัน

แต่วางมาก่อนหน้านั้นนานนัก… เพียงแต่ไม่มีใครจับได้ว่า ทุกอย่างเชื่อมโยงกัน

เย็นวันถัดมา องค์ชายซูเหยียนเดินเข้ามาในลานไผ่ของตำหนักเซียนหลัน

แววตาเขาหนักแน่นขึ้นกว่าเดิม แต่น้ำเสียงยังคงอ้อมแอ้มเมื่อเผชิญหน้านาง

“ข้า…จำบางอย่างได้ ในวันนั้น ตอนที่มารดาของเจ้า…ถูกพาตัวไป ข้าก็อยู่ที่ตำหนักกุ้ยเฟย”

เซียนหลันหยุดพัดที่นางถือไว้ครู่หนึ่ง

“แล้วเจ้าทำอะไรในวันนั้นบ้าง?”

เขากัดริมฝีปากแน่น ก่อนตอบ

“…ข้ายืนอยู่ข้างซูเจิน และข้าไม่ได้พูดอะไร”

นางเงียบไปนาน ก่อนจะถามเสียงเรียบ

“เพราะกลัว? หรือเพราะเลือกจะเงียบ?”

เขาตอบไม่ได้

แต่นั่นเองที่เป็นการตอกลึกลงไปในใจของเขา ว่า…ถึงจะเป็นพี่น้องกัน แต่ความทรงจำของแต่ละฝ่ายต่างกันราวแผ่นดินและผืนฟ้า

เมื่อเขาก้าวออกไป เซียนหลันยืนอยู่นิ่ง ๆ ตรงลานดอกเหมย

“แม้ดาบของเขาไม่เปื้อนเลือด…แต่ก็เคยยืนมองเลือดหยดลงพื้นโดยไม่เอื้อนเอ่ย”

นางพูดกับตัวเองเบา ๆ

ดอกเหมยสีขาวร่วงลงมาที่ไหล่นางพอดี

และแสงอาทิตย์ยามสนธยาก็จางหายลงกับความเงียบในหัวใจ

ในห้องลับของเขาเอง เฟิงอวี้หาน กำลังพลิกเอกสารที่เพิ่งได้จากคนของเวินอี้เฉิน

เมื่ออ่านจบ เขาหยิบแหวนตราโลหะเล็กขึ้นมาพินิจ พลางพูดกับตัวเองเบา ๆ

“เจ้ากำลังวางกับดักให้ทุกคนเดินเข้าไปด้วยเท้าเปล่า ไม่รู้ตัวเลยหรือว่า คนที่ยืนอยู่กลางเปลวเพลิง…คือเจ้าเอง เซียนหลัน”

เขาพึมพำพร้อมถอนหมั้นหมายเก่าที่ยังติดค้างในบันทึกหลวงอย่างเงียบงัน

เพราะเขารู้ว่า…ต่อให้ต้องเดินข้ามเข็มนับหมื่น เขาก็จะไม่ยอมให้เงาหงส์นั้นตกเป็นเบี้ยในเกมของใคร

More Chapters